วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คอลลาเจน...เสริมสร้างความเรียบตึง

ผู้หญิงที่มีอายุขึ้นเลข 3 ต่างก็เริ่มกังวลเรื่องของริ้วรอยที่กำลังจะเกิดขึ้นบนใบหน้า เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ต่างก็อยากมีผิวพรรณที่เรียบตึง ปราศจากริ้วรอย ปัจจุบันเราจะพบว่าอุตสาหกรรมเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมีการแข่ง ขันกันสูงขึ้น ทั้งนี้สังเกตได้จากมีการโฆษณาเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพออกมา เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะถ้าหากผลิตภัณฑ์หรือสินค้าใดได้มีการโฆษณาว่า สามารถช่วยพิชิตความเหี่ยวและชะลอความแก่ชราได้ด้วยแล้ว ก็จะยิ่งมีผู้สนใจมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างที่เห็นเด่นชัดก็คือ การโฆษณาขาย คอลลาเจน จึงมีความสนใจว่า คอลลาเจนคืออะไร มีความสำคัญหรือประโยชน์อย่างไร 





คอลลาเจน คือ อะไร ? ? ?
คอลลาเจน(Collagen) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก ว่า Kolla ซึ่งแปลว่า กาว คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่ประสานกันเป็นเส้นใยอยู่ใต้ชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญของผิวหนัง เพราะเป็นส่วนสปริงของผิวหนังทำหน้าที่เป็นกาวเชื่อมเซลล์แต่ละเซลล์เข้า ด้วยกัน ช่วยเสริมความเรียบตึงให้แก่ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังแข็งแรงและดูเรียบเนียน คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งซึ่งมีส่วนประกอบเป็นกรดอะมิโน ชนิดที่ต่างจากโปรตีนอื่นๆ ของร่างกาย แต่มีความสำคัญเพราะเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 75 ของผิวหนัง โดยทำให้ผิวหนังแข็งแรง ดังนั้นโปรตีนทั้งหมดของร่างกายจึงมีองค์ประกอบเป็นคอลลาเจนถึงร้อยละ 33 

การสังเคราะห์คอลลาเจน
ในชั้นหนังแท้ (Dermis) มีเซลล์ชนิดหนึ่งชื่อ ไฟโบรบลาสท์ (Fiberblast) ซึ่งกระจายไปทั่วและมีจำนวนมาก ทำหน้าที่สังเคราะห์ คอลลาเจน (Collagen) กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) และยังผลิตอิลาสติน (Elastin) ออกมาอีกจำนวนหนึ่งด้วย วิธีการผลิตคอลลาเจนของเซลล์ไฟโบรบลาสท์มีลักษณะคล้ายกับวิธีการทำงานของ เซลล์ประเภทเม็ดโลหิตขาวขนาดใหญ่ คือ ตรงบริเวณเยื่อหุ้มเซลล์จะมีพื้นที่เฉพาะ (Receptor) สำหรับให้โมเลกุลของสารเคมีหรืออาจเป็นเนื้อเยื่อ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นหรือก่อกวนเซลล์ไฟโบรบลาสท์ให้ทำงานมาเกาะ รูปร่างของโมเลกุลที่เป็นตัวให้สัญญาณจะต้องพอดีกับพื้นที่เฉพาะ (Receptor) นั้น จึงจะเกิดการทำงาน ถ้าจับกันสนิทแนบแน่น เซลล์ไฟโบรบลาสท์ ก็จะเกิดการตื่นตัว (Active) และเร่งผลิตสารเคมี 3 อย่างออกมา ได้แก่ 1) คอลลาเจน (Collagen) ทำให้ผิวตึง แน่น 2) อิลาสติน (Elastin) ทำให้ผิวหนังสามารถโค้งงอได้และเป็นตัวมัดคอลลาเจน และ 3) กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) มีคุณสมบัติสำคัญคือสร้างความชุ่มชื้น เพราะสามารถดูดน้ำไว้ในตัวเองได้ถึง 1,000 เท่าโดยน้ำหนัก และจะเป็นตัวทำให้ผิวหนังเต็มออกมา ซึ่งทุกอย่างนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

ประโยชน์ของคอลลาเจน 
คอลลาเจน(Collagen) ทำหน้าที่เชื่อมเซลล์และอวัยวะต่างๆในร่างกายเข้าด้วยกัน ช่วยปกป้องอวัยวะภายในร่างกายให้อยู่ด้วยกันในผิวหนังชั้นหนังแท้ รวมทั้งมีส่วนช่วยเสริมสร้างความเรียบตึงของผิวหนังทำให้ผิวหนังแข็งแรงและ เรียบเนียน ปัจจุบันคอลลาเจนถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย เช่น ทางการแพทย์ใช้เพื่อลดอาการอักเสบของผิวหนัง ใช้เป็นไหมละลายในการผ่าตัด ใช้เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ใช้เป็นสารบุร่องเหงือก ตลอดจนใช้เป็นเครื่องสำอางเพื่อทำให้ผิวหนังดูอ่อนวัย ลบริ้วรอย


 ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจน 
จากข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจนคือ อนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดดจ้าที่เข้มข้นด้วยรังสี UV เกินปกติ มลพิษต่างๆ การสูบบุหรี่ สารปนเปื้อนในอาหารที่รับประทานเข้าไปและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน จากสาเหตุดังกล่าวส่งผลทำลายผิวหนังในชั้นกำพร้า (Epidermis) และชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 2 ชนิด คือ คอลลาเจน และอิลาสติน ที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้ผิวหนังดูเต่งตึง มีความยืดหยุ่นดี และควบคุมความชุ่มชื้น ซึ่งจะถูกทำลายให้บางลง ในวัยเด็ก และวัยหนุ่มสาว เราจะสังเกตเห็นว่าผิวหนังจะมีความเต่งตึง เนื่องมาจากคอลลาเจนยังไม่เสื่อมสลายและมีจำนวนมาก นอกจากนี้คอลลาเจนยังมีการสร้างทดแทนอยู่ตลอดเวลาที่ร่างกายแข็งแรง แต่กระบวนการสร้างคอลลาเจนของร่างกายโดยเฉพาะที่ผิวหนังนั้นก็จะน้อยลง เรื่อยๆเมื่อยิ่งสูงวัยขึ้น ทำให้เกิดความไม่สมดุลกันระหว่างการผลิต และการสลายตัวของคอลลาเจน จนถึงจุดหนึ่งการสูญเสียคอลลาเจนตามธรรมชาติเกิดมากกว่าการสร้าง ส่งผลทำให้ชั้นผิวหนังยุบและทรุดตัวลงอันเป็นต้นเหตุของความเหี่ยวย่นและ ริ้วรอย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น