วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

วิธีดูแลผิวหน้าให้อ่อนเยาว์


มลภาวะทั้งฝุ่น แสงแดด ควัน ความร้อนต่าง ๆ ล้วนทำร้ายสุขภาพผิวของเราโดยไม่รู้ตัว การป้องกันรักษาผิวหนังไม่ให้เหี่ยวย่น อันเป็นเครื่องหมายของความแก่ชรา วันนี้เรามีวิธีดูแลผิวหน้าให้อ่อนเยาว์อยู่เสมอมาฝากคุณผู้หญิงทั้งหลายค่ะ เพราะเรารู้ว่า ผู้หญิงทุกคนหรือใครๆ ก็คงอยากให้ตัวเองดูอ่อนเยาว์ไร้ความหมองคล้ำที่สำคัญริ้วรอยและตีนกายิ่งไม่อยากให้มีและอยากจะหนีห่างให้ใกล้ที่สุด เราถึงได้นำ วิธีดูแลผิวหน้าให้อ่อนเยาว์ มาให้คุณผู้หญิงทั้งหลายได้ห่างไกลจากสิ่งที่ไม่ให้มีมาก่อนจะถึงวัยอันควรทีเร็วจนเกินไปค่ะ เพราะด้วยมลภาวะสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกอาจจะส่งผลให้ผิวของคุณค่อย ๆ เหี่ยวแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวฉะนั้นเราเริ่มดูแลผิวของคุณซะตั้งแต่ตอนนี้ด้วย วิธีดูแลผิวหน้าให้อ่อนเยาว์ แล้วคุณจะเป็นคนที่ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมออีกด้วยค่ะ







วิธีดูแลผิวหน้าให้อ่อนเยาว์

1. ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ
ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยแดดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเหี่ยวย่น การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันจึงเป็นเสมือนการสร้างเกราะคุ้มกันให้กับผิวหน้า ถ้าไม่ได้ไปเผชิญกับแดดแรง ๆ เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ก็พอค่ะ และในช่วงกลางวันที่แดดจ้าหลบแดดได้จะเป็นวิธีปกป้องผิวที่ดีที่สุด หรือถ้าต้องไปรับไอแดดกันจริง ๆ ควรสวมหมวกปีกกว้างสวมแว่นกันแดดและใส่เสื้อผ้าโทนสีเข้มเนื้อหนาที่สามารถป้องกันการทะลุทะลวงของรังสี UV ทั้ง UVA ที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวคล้ำและมีริ้วรอยและ UVB ที่ทำให้ผิวไหม้เกรียม

2. อย่ารบกวนผิวมากเกินไป
การรบกวนผิวมากไปไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพผิวแต่อย่างใดการล้างหน้าบ่อยเกินไปหรือขัดถูเช็ดผิวหน้าอย่างรุนแรงเพื่อให้มั่นใจ ว่าสะอาดเพียงพอ กลับเป็นการทำร้ายผิวแบบไม่รู้ตัวเพราะอาจทำให้ผิวมีริ้วรอยและหยาบกร้านได้โดยเฉพาะคนที่ผิวแห้ง การล้างหน้าต้องทำอย่างนุ่มนวลเช็ดผิวอย่างเบามือเพื่อป้องกันริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนี้ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวด้วย

3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA
AHA หรือ Alpha hydroxy acid มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวให้ขาวขึ้นแล้วยังช่วยรักษาริ้วรอยจากแสงแดดได้ด้วย ซึ่งปัจจุบัน เครื่องสำอางส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของ AHA ในปริมาณ 2-15 % ซึ่งมักไม่เป็นอันตรายกับผิว แต่อย่างไรก็ตามก็ควรเลี่ยงที่จะไปตากแดดแรง ๆ เพราะการใช้ AHA จะทำให้ผิวหน้าไวต่อแดดมากขึ้นดังนั้นเพื่อป้องกันการแพ้ควรใช้ครีมกันแดดร่วมด้วยเสมอ

4. ลดริ้วรอยบาง ๆ ใต้ตาด้วยเรตินอล
เมื่ออายุมากขึ้นริ้วรอยใต้ตาอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความร่วงโรยของผิวได้ โดยเฉพาะผิวใต้ตาซึ่งค่อนข้างบอบบางจึงเกิดริ้วรอยได้ง่ายหากทิ้งไว้ก็กลายเป็นรอยตีนกาได้ คงถึงเวลาที่คุณจะต้องหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลซึ่งมีคุณสมบัติลดเลือนริ้วรอยจาง ๆ ได้ดี นอกจากนี้เรตินอลยังช่วยกระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนทำใหผิวหน้าเต่งตึงขึ้นได้

5. อาหารต่อต้านริ้วรอย
ผู้เชี่ยวชาญท่านได้ศึกษาพบว่า อาหารที่อุดมไปด้วยผลไม้ ผัก และไขมันต่ำ จะช่วยให้ผิวพรรณของเราแข็งแรงพอที่จะต่อต้านสิ่งที่จะมาทำลายผิวให้อ่อนแอจนเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยได้ค่ะ โดยเฉพาะแสงแดดภัยตัวฉกาจของการทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าของหญิงสาวค่ะ ชนิดของอาหารที่แนะนำให้รับประทานก็คือ อาหารที่มีไขมันต่ำลดการรับประทานเนื้อแดงและของหวานลง นอกจากนี้ก็ควรเพิ่มการรับประทานผักใบเขียว ผลไม้ เมล็ดถั่วต่าง ๆ น้ำมันมะกอกที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัว รวมทั้งเมล็ดธัญพืชต่าง ๆ ค่ะ ซึ่งอาหารดังกล่าวจะอุดมไปด้วยวิตามินที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินเอ ซี และอี จะช่วยให้ผิวของคุณแข็งแรงและปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำลายจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ 
ดังนั้น สาว ๆ จึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวด้วย เพื่อต่ออายุผิวใสของคุณให้ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ แถมยังดูสุขภาพดีจากภายในอีกด้วย อาหารที่ยืดอายุผิวอ่อนเยาว์ให้อยู่กับสาวๆ ไปนาน ๆ ได้แก่
          ชาเขียว คุณรู้ไหมคะว่า ชาเขียวแท้แบบไม่มีน้ำตาล ไม่เติมแต่งรสชาติ เป็นแหล่งของแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ที่ช่วยในการรักษาความอ่อนเยาว์ของผิวที่ดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามิน C D และ K ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายและผิวคุณอย่างมากมาย

          ปลาแซลมอน แซลมอนเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่เป็นกุญแจสู่การมีผิวสุขภาพดีอย่างแท้จริง และยังช่วยในการยับยั้งการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และชะลอปัญหาผิวร่วงโรยเหี่ยวย่นตามอายุอย่างได้ผล

          บลูเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่อาจจะหาทานได้ยากหน่อยในบ้านเรา แต่ถือว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์กับผิวอย่างมากมายเลยค่ะ เพราะมีไฟเบอร์ วิตามิน C และ E ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทำให้ผิวสว่างสดใสสุขภาพดีทั้งนั้น และที่สำคัญ ในบลูเบอร์รี่ยังมีสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ที่สามารถฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย และป้องกันผิวให้หย่อนคล้อยได้ยากอีกด้วย

          แครอท แครอทเป็นแหล่งของวิตามิน A ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญที่ทำให้ผิวคุณสุขภาพดีได้ ดังนั้น การที่ร่างกายได้รับวิตามิน A น้อยเกินไป จะส่งผลให้เกิดปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น หยาบกร้าน และที่สำคัญ แครอทยังมีแอนตี้อ๊อกซิแดนท์สูงมาก ช่วยป้องกันผิวจากการถูกทำลาย ไม่ว่าจะด้วยแสงแดดหรือมลภาวะก็ตาม

          เมล็ดทานตะวัน เคล็ดลับที่จะทำให้ผิวคุณไม่ดูซีด หรือพูดง่าย ๆ คือให้ผิวคุณดูมีเลือดฝาด คือการรับประทานเมล็ดทานตะวันค่ะ ซึ่งคุณอาจจะโรยเมล็ดทานตะวันลงในจานสลัดผักที่อุดมไปด้วยวิตามินก็ได้ หรืออาจรับประทานเปล่า ๆ ก็ได้ เพื่อช่วยให้ผิวดูมีสุขภาพดีขึ้น

          กีวี ผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามิน C ช่วยในการเก็บรักษาคอลลาเจนในผิว ซึ่งทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง

          แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลแดงเป็นยอดผลไม้เพื่อสุขภาพผิว จากการศึกษาพบว่าแอปเปิ้ลมีประโยชน์ต่อการเสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในผิว ช่วยให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ยาก และดูเปล่งปลั่งสุขภาพดีอีกด้วย

          แตงกวา แตงกวานอกจากจะช่วยให้ความชุ่มชื้นจากภายนอกด้วยการนำไปวางบนผิวแล้ว การรับประทานแตงกวาในปริมาณที่เหมาะสมยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นกับผิวภายในได้ดีเลยทีเดียว


6. เว้นอาหารที่ทำลายผิวพรรณ
ไขมันอิ่มตัวในเบคอน ไส้กรอก ไอศกรีม และเนยสด กระบวนการเผาผลาญอาหารเหล่านี้ จะเกิดอนุมูลสารอิสระสูงซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เซลล์ของร่างกายเหี่ยวย่นและเสื่อมโทรม ส่วนอาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไปมีผลขัดขวางกระบวนการสร้างคอลลาเจนของเซลล์ผิวทำให้ผิวหย่อนยาน

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจะดูดซับความชื้นจากผิว ถ้าคุณติดกาแฟจนยากที่จะเลิกเมื่อคุณดื่มกาแฟ 1 แก้ว ก็ควรดื่มน้ำเปล่าแก้วโต ๆ ตามไป 1 แก้วเช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำและผิวพรรณขาดความชุ่มชื้นไปด้วย

เครื่องดื่มแอลกฮอล์เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวพรรณขาดความเปล่งปลั่ง ถ้าคุณเป็นนักดื่มทุกครั้งที่ดื่มแอลกฮอล์อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าแก้วโต 2 แก้ว เพื่อชดเชยไม่ให้ร่างกายสูญเสียน้ำและช่วยป้องกันไมให้ผิวขาดความชุ่มชื้น

7. ใช้ชีวิตอย่างสมดุล
สาวบ้างานทั้งหลายมีสิทธิ์ผิวหย่อนยานไม่สดใสได้เร็วขึ้นเพราะการทำงานหนักชนิดอดหลับอดนอนหรือไม่มีเวลาสำหรับพักผ่อน นอกจากร่างกายจะอ่อนล้าแล้วผิวพรรณก็หมองคล้ำทำให้คุณดูทั้งโทรมทั้งเหี่ยวเชียวล่ะ แม้อยากเป็นดาวรุ่งมากแค่ไหนก็ควรจัดเวลางานและเวลาส่วนตัวให้สมดุลมีเวลาสำหรับการออกกำลังกายและได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรงไม่หย่อนยานก่อนวัยหากปล่อยให้ความเครียดสุมหัวจนไม่มีเวลาคลายเครียดนานวันเข้าผิวพรรณก็ร่วงโรยจนเกินเยียวยา เครื่องสำอางมหัศจรรย์ที่ว่าแน่ ๆ ก็ไม่อาจจะช่วยฉุดรั้งความสดใสและความเปล่งปลั่งของผิวสาวกลับคืนมาได้หรอกค่ะ



สุขภาพดี และดูดีได้อย่างแท้จริง เพราะร่างกายได้รับการดูแลจากภายในสู่ภายนอก




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น